ชีวประวัติ

คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาทองสุข สำแดงปั้น

ปฐม​าจารย์​ของ​ครู​ผู้​ให้​กำเนิด​วัด​พระ​ธรรมกาย

1.กำเนิด​และ​ชีวิต​วัยเด็ก​

        คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาทองสุข สำแดงปั้นหรือ แม่ชีทองสุข สำแดงปั้น เป็นครูบาอาจารย์ด้านการสอนทำภาวนาผู้มีชื่อเสียง เกิดวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2443 ณ บ้านสะพานเหลือง อ.บางรัก จ.กรุงเทพฯ

คุณยายทองสุข สำแดงปั้น ท่านมีต้นตระกูลทางแม่เป็นเชื้อเจ้าในวัง พ่อเป็นลูกมหาเศรษฐีแถวหัวลำโพง มีที่ดินและเงินทองมากถึงขนาดต้องเอาทองคำใส่ไว้ในกระจาด และเอาเงินตวงใส่กระบุง แม้แต่ขันใส่ข้าวตักบาตรยังทำด้วยทองคำแท้ ๆ คุณยายทองสุขมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขอย่างนี้จนกระทั่งอายุ 5 ขวบ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้ชีวิตต้องพลิกผันคือ พ่อแม่ของท่านเสียชีวิต ท่านจึงเป็นเด็กกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เยาว์วัย

ทำให้ญาติพี่น้องต่างก็เอากะลามาตักเงิน ขนทอง ขนเสื้อผ้า เอาสมบัติไปจนหมด นับจากนั้นคุณยายทองสุข ก็มีชีวิตที่ระหกระเหินไปอยู่กับคนโน้นทีคนนี้ที ต้องตรากตรำลำบากทำงานบ้านให้กับคนที่ไปอาศัยอยู่ด้วยตั้งแต่เด็กๆ แถมโดนแกล้งโดนเอาเปรียบอะไรก็ปริปากบ่นไม่ได้เลย จนกระทั่งคิดน้อยเนื้อต่ำใจ หาทางออกให้กับชีวิต โดยการไปผูกคอตาย แต่ระหว่างเดินไป ลูกของอา เห็นจึงได้ถามขึ้นว่า “จะไปไหน? ” ท่านตอบกลับว่า “เราจะไปผูกคอตาย เรามันไม่รวยเหมือนกับเจ้านี่ เจ้าน่ะ ร่ำรวยกินก็เป็นสุข นอนก็เป็นสุข ข้าทาสชายหญิงก็มีใช้ เรานี้ยากจน ต้องกินต้องนอนอยู่ใต้ถุน” พอลูกขออาฟังอย่างนี้ เกิดสงสารจึงยื่นเงินให้ 1 บาท แล้วบอกว่า เอ็งอย่าไปฆ่าตัวตายเลย เพราะมันจะตกนรก

2.จุด​เริ่มต้น​สร้าง​บารมี​

      จากนั้นคุณยายทองสุขจึงได้มาอยู่กับอา และได้แต่งงานกับศัลยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ไม่นานนัก สามีก็ตายจากท่านไปอีก ภาระเลี้ยงลูกเล็ก ๆ ทั้ง 2 คน จึงต้องตกอยู่กับท่าน ทั้ง ๆ ที่เงินทองก็ไม่มี จนผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงสารเลยรับให้มาทำงานในโรงพยาบาล แต่รายได้ก็ยังไม่พอใช้ ท่านจึงออกมาค้าขายมะพร้าว จึงเป็นเหตุให้ท่านได้ยินกิติศัพท์ของหลวงปู่ จึงได้มากราบท่าน และได้มาเรียน สมาธิ แต่ก็ไม่ก้าวหน้า จนกระทั่งเพื่อนที่เรียนสมาธิรุ่นเดียวกันได้ธรรมะกันหมด

3.เข้า​ถึง​พระ​ธรรมกาย​

         ในราวปี 2478 ท่านรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจคิดว่า ตัวเองมันบาปหนาที่ไม่ได้ธรรมะกับเขาสักที จึงโมโหไปเก็บกระโถนในวัดปากน้ำทั้งวัดมาขัด ขัดไปก็บ่นไปว่า “กิเลสมันหนามากนัก ขัดมันเสียบ้างเจ็บใจนัก ใครๆ เขาก็ได้กันหมดเหลือคนเดียว เจ็บใจต้องขัดมันออกไปเสียไอ้กิเลสนี่” พอขัดเสร็จมาตรึกธรรมะ จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกายในที่สุด แล้วได้มาบวชเป็นชีอยู่วัดปากน้ำภาษีเจริญเพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายกับหลวงปู่ ตอนที่อยู่วัดปากน้ำ คุณยายทองสุขต้องเข้าเวรทำวิชชากะดึก ซึ่งท่านก็เชี่ยวชาญมากสามารถไปนรกสวรรค์ได้คล่องแคล่ว เมื่อหลวงปู่ให้ลองวิชชาใหม่ๆ ท่านจะเป็นคนแรกที่อาสาลองทุกครั้ง เช่นเรียนวิชชาแปลงเพศ ซึ่งท่านก็ทำสำเร็จ ท่านสามารถทำจันทรคราส ดับเดือน ดับดาวได้เก่งมาก โดยดวงดาวดวงไหนจะเป็นภัยต่อมนุษย์ ท่านจะทำวิชชาดับมัน ท่านทำในเหตุ ดับในเหตุอย่างต่อเนื่อง

ในโอกาสที่คุณยายทองสุก สำแดงปั้น ได้มาสอนธรรมะที่บ้านคุณนายเลี้ยบ ท่านได้เป็นอาจารย์คนแรกที่สอนธรรมะให้กับคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกายและเป็นผู้พาคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงมาพบและศึกษาธรรมปฏิบัติกับหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ

4.เผยแผ่​พระพุทธศาสนา​วิชชา​ธรรมกาย​

          ปี 2483 เมื่อศึกษาจนความรู้มั่นคงแล้วหลวงปู่วัดปากน้ำ ได้มอบหมายท่านออกเผยแผ่ธรรมะ สอนสมาธิ คุณยายเป็นครูชั้นเลิศ มีวิธีการสอนที่ละเอียดละออ ท่านเน้นและทบทวนธรรมที่สอนอยู่เสมอไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้ศิษย์ เพื่อให้ศิษย์รู้ จำได้ เข้าใจจริง จนประสบความสำเร็จ สมกับที่หลวงปูวางใจให้เป็นครู

คุณยายมีความสามารถในการสอน เมื่อถามก็ตอบให้เข้าใจ และจะแนะนำแก้ไขข้อขัดข้องอุปสรรคต่าง ๆ ด้วยเมตตา ท่านสอนหลักการแก่ศิษย์ว่า อย่างเกร็งตัว อย่ากดลูกนัยน์ตา

กำหนดบริกรรมนิมิตและบริกรรมภาวนาเรื่อยไปกำหนดใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย รู้เฉย ๆ ว่าใจเรานี้อยู่ที่ศูนย์ ฯ รู้เพียงเท่านี้ก่อน ไม่ต้องร้อนใจ

ทำใจให้เฉย ๆ เรื่อย ๆ ตัดความอยากรู้อยากเห็นเร็ว ๆ นั้นเสีย ตัดความกังวล ยังไม่เห็นก็อย่าเสียใจ ขอให้ทำให้ถูกต้องและมีความเพียรเถิด ธรรมะเป็นของจริง ถึงเวลาแล้วเห็นเอง เมื่อเห็นแล้วก็อย่าดีใจเกินไป เพราะจะทำให้นิมิตนั้นหายได้

ขณะที่ท่านสอนจะเรียบเรียงถ้อยคำ ลำดับเหตุ ลำดับผลจัดวางความยากง่ายอย่างเหมาะสมกับศิษย์จนเข้าถึงแก่นและการนำเรื่องเปรียบเทียบที่ให้ความกระจ่างแจ้งแก่เนื้อหาดังเช่นคำสอนของท่านที่ว่า

“ใจของเราเป็นของละเอียดไม่ใช่ของหยาบ ถึงแม้ใจเราจะไม่วอกแวกไปไหนต่อไหนแล้วก็ตาม แต่หากจะบังคับให้หยุดทันทีก็ยังลำบาก เราต้องใช้วิธีตะล่อมใจทีละเล็กทีละน้อย ใจเราก็จะยอมหยุดเอง อุปมาเหมือนเราจะจับไก่เข้าเล้า หากใช้วิธีวิ่งพรวดพราดเข้าไปจับ ไก่จะหนีไปจับตัวไว้ไม่ได้ แต่หากใช้วิธีค่อย ๆ ตะล่อมเข้าหาไก่ เรียกไก่เข้ามา ไก่นั้นจะเชื่อง ยอมให้เราจับได้โดยง่าย จึงเปรียบเหมือนเรา เมื่อเพ่งแรงเกินไปใจก็จะไม่ยอมหยุด ก็หากค่อย ๆ ภาวนาประคับประคองนิมิตให้เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ในที่สุดใจนั้นก็จะเชื่องหยุดในที่ตั้งของใจ คือ ที่ศูนย์กลางกายนั้นเอง”

ท่านได้จาริกเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ตามบัญชาของหลวงปู่วัดปากน้ำ ในสถานที่หลายแห่ง ได้แก่ วัดปากน้ำ, บางปะกง, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, บ้านบึง, พนัสนิคม, พนมสารคาม, ปราจีนบุรี, นครปฐม, ราชบุรี, สิงห์บุรี, นครสวรรค์, ตะพานหิน, พิษณุโลก และเชียงใหม่

   ท่านจึงมีลูกศิษย์มากมายโดยเฉพาะที่ได้เข้าถึงพระธรรมกายมีจำนวนเป็นพันคน ท่านมิได้ละทิ้งหน้าที่ที่พระอาจารย์คือหลวงปู่มอบหมายไว้ให้เลย จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

5.ต้น​บุญ​บูชา​ข้าวพระ​

   คุณยายฯ เป็นผู้ค้นพบวิชชาบูชาข้าวพระพุทธเจ้า ทำให้ศิษยานุศิษย์ได้ทำบุญใหญ่ตั้งแต่บ้านหลังเล็ก, บ้านธรรมประสิทธิ์ที่วัดปากน้ำฯ จนถึงวัดพระธรรมกายและยังถ่ายทอดพิธีกรรมจากวัดพระธรรมกายไปทั่วโลกในปัจจุบันในทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน

6.ละสังขาร​

         ในวาระสุดท้ายของชีวิต ท่านถึงแก่กรรมด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์​ พุทธศักราช​ 2506 เวลา 19.35 น. ในที่พักวัดปากน้ำ ท่ามกลางญาติมิตรและศิษยานุศิษย์ สิริอายุย่าง 63 ปี อยู่ในเพศผู้ทรงศีลประมาณ 23 ปี

7.นักเผยแผ่​วิชชา​ธรรมกาย​มือ​หนึ่ง

         ท่านเป็นนักเผยแผ่ธรรมะปฏิบัติมือหนึ่ง ของหลวง​ปู่​วัด​ปากน้ำ​ภาษีเจริญ​ ศิษยานุ​ศิษย์​จึง​ยกย่อง​ให้เป็น​ 1​ ในมหา​ปูชนียา​จารย์   คุณ​ยาย​อาจารย์​มหา​รัตน​อุบาสิกา​ทอง​สุข​ สำแดง​ปั้นคือ​มหาปูชนียา​จารย์​นักเผยแผ่วิชชาธรรมกาย มือวาง​อันดับ​ 1​ เป็นผู้​ชำนาญ​ใน​การ​เผยแผ่วิชชาธรรมกายของพระ​เดชพระคุณ​พระมงคล​เทพ​มุนี​ (สด​ จน​ฺ​ท​สโร)​ หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ และ​เป็น​ปฐม​าจารย์​ผู้​สอนสมาธิ​ภาวนา​ให้​กับคุณ​ยาย​อาจารย์​มหา​รัตน​อุบาสิกา​จันทร์​ ​ขน​นกยูง​ ครู​ผู้​ให้กำเนิด​วัด​พระ​ธรรมกาย